พลิกชีวิตด้วยการปลูกผักพื้นบ้าน ปลูกง่าย รายได้ดี มีตลาดต้องการ

Last updated: 18 ก.ย. 2562  |  2563 จำนวนผู้เข้าชม  | 

พลิกชีวิตด้วยการปลูกผักพื้นบ้าน ปลูกง่าย รายได้ดี มีตลาดต้องการ

พลิกชีวิตด้วยการปลูกผักพื้นบ้าน ปลูกง่าย รายได้ดี มีตลาดต้องการ

“ถ้าเราอยากมาทำเกษตร ก็ควรศึกษาทำความรู้จักพืชที่เราจะปลูกให้ดีเสียก่อน ดูว่าต้นทุนมันสูงไหมและที่สำคัญต้องหาตลาดที่มั่นคงให้ได้ก่อน ดูพืชที่ไม่ล้นตลาดแล้วค่อยลุยกับมันเต็มที่ โดยเริ่มจากเล็กๆ ก่อน”
คุณขวัญกมล บุติมุลตรี และ คุณสุนันท์ พันกนก

สุนันท์ พันกนก ในวัย 25 ปี และขวัญกมล บุติมุลตรี ในวัย 24 ปี คู่รักหนุ่มสาวที่กลับมาทำการเกษตร เพาะปลูกต้นจขรภายใต้พื้นที่สวนขนาด 2 ไร่ ที่มีชื่อว่า “สวนดอกขจรตามฮอยพ่อ” ในอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ได้เล่าที่มาที่ไปของสวนดอกขจรตามฮอยพ่อให้ฟังว่า “เริ่มแรกเราสองคนทำงานเป็นเชฟร้านอาหารญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ พอทำไปได้สัก 1 ปี ก็เริ่มรู้สึกเบื่องานลักษณะนี้มันมีแต่อะไรเดิมๆ เงินไม่พอใช้ ค่าครองชีพสูง เลยคิดอยากหันเหชีวิตไปทำการเกษตร เนื่องจากพ่อแม่ทำเกษตรอยู่แล้ว แต่เป็นการทำนา ทำมานานแล้วแต่ชีวิตก็ยังไม่ดีขึ้นเราเลยอยากลองเปลี่ยนไปทำเกษตรในรูปแบบอื่นดู พอทำงานที่กรุงเทพฯ ได้ 1 1/2 ปี จึงตัดสินใจกลับบ้านและทดลองปลูกพืชหลายชนิด เช่น ปลูกมะนาว มะเขือ คะน้า ผักบุ้ง ผักสวนครัวทั่วไป เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงหมู และปลูกดอกขจรด้วยควบคู่กันไปด้วย แต่ตอนนั้นยังปลูกดอกขจรแค่ 1 แปลง เล็กๆ”

พื้นที่ที่ใช้ปลูก
พื้นที่เกษตรของเราทั้งหมดมีอยู่ 17 ไร่ ปลูกข้าว 6 ไร่ ปลูกมันสำปะหลัง 9 ไร่ และแบ่งมาทำดอกขจรประมาณ 2 ไร่ “ก่อนทำการปลูกขจร เราจะเริ่มด้วยการปรุงดินเป็นอันดับแรกโดยใช้ปุ๋ยคอกหรือขี้วัวจำนวน 100 กิโลกรัม หว่านให้ทั่วแปลง 1 ไร่ ห้ามใช้ขี้ไก่เพราะจะทำให้เกิดเพลี้ยมารบกวน จากนั้นไถพรวน ตากดินไว้ประมาณ 15 วันแล้วจึงยกร่องปลูก ระยะห่างระหว่างต้นคือ 1 เมตร คูณ 1 เมตร โดยพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกได้ 1,200 ต้น หลุมละ 3 ต้น ซึ่งเราจะใส่ปุ๋ยคอกหรือขี้วัวในช่วงการปรุงดินครั้งแรกครั้งเดียว ตอนปลูกต้นขจรลงหลุมจะไม่มีการใส่ปุ๋ยใดๆ เพิ่มเติม”

ขายดอกก็ได้ ขายกิ่งพันธุ์ก็ได้
“นอกจากมีรายได้จากการขายดอกขจรเพื่อนำไปใช้ทานแล้ว เรายังสามารถขายกิ่งพันธุ์และต้นพันธุ์ได้ด้วย อย่างดอกขจรเราขายที่กิโลกรัมละ 60-100 บาท แล้วแต่ช่วงฤดูกาล ส่วนกิ่งพันธุ์ คือกิ่งที่เราตัดแล้วให้ลูกค้าไปชำเอง 1 เดือน จะขายกิ่งละ 4 บาท ส่วนต้นพันธุ์ คือต้นที่เรามาชำมีใบมีรากแล้ว จะขายต้นละ 10 บาท ถ้านับรายได้จากการขายดอกโดยเฉลี่ย 1 ไร่ สร้างรายได้ 15,000 บาท แต่เราปลูก 2 ไร่ ทำให้มีรายได้ 30,000 บาทต่อ 1 เดือน กิ่งพันธุ์เราสามารถขายได้สัปดาห์ 3,000-4,000 กิ่ง กิ่งละ 4 บาท เป็นเงินสัปดาห์ละ 12,000-16,000 บาท ตกเดือนละ 48,000-64,000 บาท ส่วนต้นพันธุ์ขายเดือนละ 4,000-5,000 ต้นต่อเดือน ต้นละ 10 บาท เป็นเงินเดือนละ 40,000-50,000 บาท”

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้